Bio-PRP Program

การรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมโดยการฉีดเกล็ดเลือด
( PRP = Regenerative Injection Therapy by Platelet Rich )

PRP หรือ เกล็ดเลือดเข้มข้น มีส่วนช่วยในการบำบัดข้อเข่าเสื่อม ใน PRP จะมี Growth Factor
 ที่เป็นปัจจัยที่ช่วยเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติของร่างกายอยู่ในปริมาณที่สูงกว่าปกติมาก ทำให้อัตราการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอทำได้เร็วขึ้น

การรักษาด้วยเกล็ดเลือดเข้มข้นสูงชนิด Bio-PRP เหมาะสมกับโรคอะไรบ้าง?

  1. โรคข้อเข่าเสื่อม
  2. ไขข้ออักเสบ
  3. เอ็นข้อเข่าอักเสบ
  4. เอ็นข้อไหล่ฉีก หรืออักเสบ
  5. เอ็นร้อยหวายอักเสบ
  6. เอ็นฝ่าเท้าอักเสบ
  7. เอ็นอักเสบที่ข้อศอกด้านนอก(Tennis Elbow)
  8. เอ็นอักเสบที่ข้อศอกด้านใน(Golfer Elbow)
  9. การบาดเจ็บของเส้นเอ็น หรือกล้ามเนื้อ
  10. กล้ามเนื้อบ่าตึงแข็งจาก ออฟฟิศซินโดรม

รักษาเข่าเสื่อม ไม่ผ่าตัด คลิ๊ก

การรักษา

ช่วงอายุเป็นหลัก ข้อเสื่อมมักจะเกิดกับผู้ที่อายุ 60 ปีขึ้นไป หากมีผู้ที่เข้ามาทำการรักษาก่อนอายุ 50-60 ปี แสดงว่าต้องมีอาการบาดเจ็บมาจากวัยหนุ่มสาว มีอาการไวกว่าที่ควรจะเป็น อาจจะเคยมีการผ่าตัดมาก่อน ควรดูว่าคนไข้มารักษาในช่วงอายุไหน ควรถามคนที่มาก่อนอายุ 50-60 ปีว่าสาเหตุเกิดจากอะไร เป็นมานานแค่ไหน ทำการรักษาอะไรมาบ้าง  บางคนขาโก่งแล้ว เข่าเสื่อมมาก แนะนำพิจารณาเรื่องการผ่าตัด การทำ PRP จะทำให้เข่าเสื่อมช้าลง ผ่าตัดช้าลง และจะช่วยฟื้นฟูผิวข้อ


โดยทั่วไปคนไข้กลุ่มอายุ
30-40 ปี วัยกลางคน จะมาด้วยสาเหตุจากการใช้งานบริเวณนั้นนานๆ
ออฟฟิศซินโดรม ที่อาการอาจจะพึ่งเป็นได้ไม่นาน
2-3 อาทิตย์ ถึง 1 เดือน อาจมีอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง ปวดตามเส้นเอ็น ก็ต้องถามว่าสาเหตุเกิดจากอะไรไปทำอะไรมา เคยรักษาอะไรมาบ้างต้องถามประวัติก่อนหน้านี้ด้วย  โดยทั่วไปถ้ามีอาการบาดเจ็บเกิดจากการใช้งาน สามารถกินยาแก้ปวดได้ แต่คนไข้ที่เข้ามาหาเราก็น่าจะเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว

การติดตามผลหลังฉีด

ในกลุ่มอายุ 30-40 ปี จะตอบสนองการฉีด PRP ได้ดี ฉีดไปครั้งเดียวก็จะเริ่มรู้สึกว่าอาการดีขึ้น แต่ต้องแจ้งก่อนว่าจะไม่ได้ดีขึ้นในวันที่ฉีด เพราะทุกครั้งที่ฉีด PRP เข้าไปจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบเบื้องต้นก่อน เพื่อให้ Growth factor เข้าไปฟื้นฟูและซ่อมแซมบริเวณที่ฉีด โดยกลไกลตามธรรมชาติร่างกายจะตอบสนองต่อการบาดเจ็บพวกนี้อยู่แล้ว การฉีด PRP ซึ่งเป็นน้ำแน่นอนอยู่แล้วว่าฉีดเข้าไปจะทำเกิดการบวม การบวมนี้จะทำให้รู้สึกตึงๆ อักเสบนิดหน่อย อาจมีรู้สึกปวดมากกว่าปกติเล็กน้อย 1-2 วัน แต่ยังสามารถใช้งานและใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ร่างกายจะตอบสนองจากการฉีด 3-4 วัน

ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีอาการแพ้

การฉีด  2 – 3 เข็มแรก ควรฉีดให้ตรงเวลา อาการจะค่อยๆดีขึ้น ฉีดเข้าไปบริเวณที่ปวดจะทำให้ปวดน้อยลงและฟื้นฟูจากภายใน จะไม่ได้หายปวดทันที

คอนเซปต์ของเราคือ เราเน้นรักษาตรงจุด ถ้าปวดตรงไหนเราก็จะฉีดไปตรงนั้น

เพื่อลดอาการปวด ให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันให้ดียิ่งขึ้น

รักษาเข่าเสื่อม ไม่ผ่าตัด คลิ๊ก

ข้อควรปฏิบัติก่อนมาทำการรักษา

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดใช้งานหนัก ในบริเวณที่จะฉีดอย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • งดอาหารจำพวกไขมันเยอะ ที่มีคอเรสเตอรอลสูง อย่างน้อย 24-72 ชั่วโมง เพื่อให้ได้เลือดที่มีคุณภาพ
  • งดแอลกอฮอล์ก่อนเข้ารับการฉีด 24 ชั่วโมง
  • ผู้ป่วยเบาหวาน แนะนำคุมน้ำตาลให้ดี
  • รักษาความสะอาดบริเวณเข่า ไม่ให้มีแผล

ข้อห้าม สำหรับผู้ที่เข้ารับการรักษา

  • ผู้ที่มีประวัติเป็นโรคมะเร็ง
  • ผู้ที่เป็นโรคเกล็ดเลือดต่ำ อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์
  • ผู้ที่มีแผลบริเวณที่ต้องการรักษา ควรให้แผลหายก่อน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ

ผลข้างเคียง

  • อาจมีรอยจ้ำช้ำบริเวณที่ฉีดเล็กน้อย (รอยเข็ม)
  • ความรู้สึกปวด ตึง หน่วงๆที่เข่า ประมาณ 1-2 วัน

ผลการรักษา

  • โดยทั่วไปการรักษาจะฉีด แต่ละครั้งต่อเนื่อง ทุก 2 ถึง 4 สัปดาห์

    ผลของการรักษาจะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน* หลังฉีดครบคอร์ส

รักษาเข่าเสื่อม ไม่ผ่าตัด คลิ๊ก

Renew Knee Program (RKP)

สร้างผิวเข่าใหม่

ลดการอักเสบในข้อ

บรรเทาอาการปวดในระยะสั้น

ฟื้นฟูเซลล์ข้อเข่าได้ระยะยาว

อาการเข่าเสื่อมในระยะแรก

  • เริ่มปวดเข่าเวลามีการเคลื่อนไหว เช่น เดินขึ้นลงบันได หรือนั่งพับเข่า อาการจะดีขึ้นเมื่อหยุดพักการใช้ข้อ
  • มีอาการข้อฝืดขัดโดยเฉพาะเมื่อหยุดการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน
  • เมื่อขยับข้อจะรู้สึกถึงการเสียดสีของกระดูกหรือมีเสียงดังในข้อ
  • เมื่อมีภาวะข้อเสื่อมรุนแรงอาการปวดจะรุนแรงมากขึ้น บางครั้งปวดเวลากลางคืน
  • อาจคลำส่วนกระดูกงอกได้บริเวณด้านข้างข้อ
  • เมื่อเกร็งกล้ามเนื้อต้นขาเต็มที่ จะมีอาการปวดหรือเสียวบริเวณกระดูกสะบ้า
  • หากมีการอักเสบจะมีข้อบวม ร้อน และตรวจพบน้้าในช่องข้อ
  • ถ้ามีข้อเสื่อมมานานจะพบว่า เหยียดหรืองอข้อเข่าได้ไม่ค่อยสุด กล้ามเนื้อต้นขาลีบ ข้อเข่าโก่ง หลวม หรือบิดเบี้ยวผิดรูป ทำให้ เดินและใช้ชีวิตประจำวันลำบาก และมีอาการปวดเวลาเดินหรือขยับ

สาเหตุความเสื่อมของข้อเข่า

  1. อายุ 40 ปี เริ่มมีข้อเสื่อม
  2. เพศ ผู้หญิงพบมากกว่าผู้ชาย 2-3 เท่า
  3. น้ำหนักตัวที่เกิน
  4. เคยประสบอุบัติเหตุมีการบาดเจ็บที่ข้อ เส้นเอ็น
  5. การใช้งาน ท่าทาง เช่น การนั่งคุกเข่า พับเพียบ ขัดสมาธิ ขึ้นลงบันไดบ่อยๆ
  6. กรรมพันธุ์ โรคข้อเข่าเสื่อม

อาการปวดเข่าเบื้องต้น

  1. มีการแตกของผิวข้อ
  2. กระดูกผิวข้อเริ่มบางลง
  3. ผิวไม่เรียบ ขรุขระและลุ่ยออก
  4. มีกระดูกงอกบริเวณขอบกระดูก
  5. การเคลื่อนไหวลดลง มีอาการเจ็บบริเวณเข่า

เตรียมตัวก่อนเข้ารับการรักษา RK PROGRAM

    1. พักผ่อนให้เพียงพอ
    2. งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
    3. งดทานอาหารที่มีไขมันสูง
    4. หากผู้ป่วยเป็นเบาหวาน ต้องคุมน้ำตาล ห้ามให้มีแผลบริเวณที่จะฉีด
    5. แจ้งยาที่ทานเป็นประจำให้แพทย์ทราบ

    หลังการรักษาด้วย RK PROGRAM

      1. หลังฉีดอาจมีรอยช้ำบริเวณเข่าได้
      2. ไม่ควรเดินเยอะๆ 24 ชั่วโมงแรก
      3. ปวด หน่วง บริเวณที่ฉีดได้
      4. หลังฉีด 3-4 วัน จะเริ่มดีขึ้น

      BE WELLNESS CLINIC

      บีเวลเนสคลินิก สาขาลพบุรี (สะพาน33)

      โทร 062-892-4947 , 092-295-4461

      Facebook
      บีเวลเนส คลินิก Be Wellness Clinic

      Line : @bewellnessclinic